จิมมี่ โรเบิร์ตสัน หลังจากที่เป็นตัวประกอบในวงการสนุ๊กเกอร์อยู่นาน ในที่สุดก็สามารถปลดล็อคแชมป์แรกได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะ โจ เพอร์รี่ ในรายการ ยูโรเปี้ยน มาสเตอร์ส ที่เบลเยียม ได้ 9-6 เฟรม คว้าเงินรางวัล 75,000 ปอนด์ไปครอง

โรเบิร์ตสัน เล่นอาชีพมา 16 ปี ไม่เคยไปได้ไกลเกินรอบ 8 คนสุดท้าย และนี้เป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเจ้าตัวตั้งแต่ได้เล่นอาชีพ เพราะนอกจากจะได้รับเงินรางวัลกว่า 75,000 ปอนด์ แล้ว อันดับโลกยังขยับขึ้นไปอีก 10 ตำแหน่ง ในเดือนหน้าอีกด้วย และจะได้รับเชิญให้ร่วมรายการ แชมเปี้ยน ออฟ แชมเปี้ยน ที่ โคเวนทรี ในเดือนหน้าด้วย

เริ่มเกมเป็น จิมมี่ โรเบิร์ตสัน ที่ออกนำก่อน 5-0 ก่อนจะโดนไล่ขึ้นมาเป็น 5-3 ในช่วงบ่าย มาต่อกันที่ช่วงเย็น โรเบิร์ตสัน ทำได้ดี นำห่าง 7-3 แต่อยู่ๆ ก็เป็น เพอรืรี่ ที่เก็บสามเฟรมรวด ขึ้นมาจี้เป็น 7-6 ก่อนที่ โรเบิร์ตสันจะอาศัยความนิ่งเก็บสองเฟรมที่เหลือคว้าแชมป์ไปครองในที่สุด

หลังเกม โรเบิร์ตสัน กล่าวผ่านสื่อว่า “มันเป็นสิ่งที่ผมฝันตั้งแต่เริ่มเล่น ผมไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นในวันนี้ ผมทำตัวไม่ถูก ไม่เคยอยู่ในขั้นตอนหลังจบการแข่งขันด้วยซ้ำ ผมเชื่อเสมอว่าผมสามารถทำได้ แล้วตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ความรู้สึกมันแตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง”

ผมรู้สึกดีในกับการที่ได้แข่งกับเขา ช่วงเย็นเราทั้งคู่ทำผลงานได้ดี และผมยินดีมากๆ ที่นำอยู่ 7-6 การคว้าแชมป์แรกมันเป็นเรื่องใหญ่ ผมไม่รู้ว่าถ้าคุณได้รับอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ในชีวิตคุณจะรับมือกับมันยังไง แต่สำหรับผมการคว้าแชมป์แรกนี้มันหมายถึงครอบครัวของผม”

ด้าน เพอร์รี่ กลับมีอารมณ์คนละขั้นและผิดหัวงกับผลงานตัวเองสุดๆ “ผมผิดหวังในตัวเองจริงๆ ผมเล่นได้แย่มาก ซึ่งมันไม่ได้แย่ทุกวันหรอกนะ ช่วงบ่ายมันเป็นการ้ล่นที่ห่วยที่สุดในรอบปีของผมเลย ผมกำลังอยู่ในอาการลิงโลดหลังจากจบช่วงบ่าย ก่อนที่จะพลาดเอง จุดเปลี่ยนจริงๆ คือ 5 เฟรมแรก ต้องยกเครดิตให้กับ จิมมี่ ผมพยายามกดดันเขาแล้ว แต่เขาทำได้ดีจริงๆ”